“9 วิธีใช้เครื่องปรับอากาศ” แบบประหยัด ร้อนนี้ไม่มีหนาวเพราะค่าไฟ!
ประเทศร้อนแบบเรา การประหยัดไฟช่วงหน้าร้อน หรือการหาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะช่วยคลายร้อนจึงเป็นสิ่งจำเป็น หลายบ้านมีเครื่องปรับอากาศภายในบ้านอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายบ้านที่ใช้เพียงพัดลมก็รู้สึกว่าเพียงพอ หรืออาจจะด้วยเหตุผลว่ากลัวค่าไฟแพงก็เป็นได้
เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะมีเครื่องปรับอากาศอยู่แล้ว หรือกำลังตัดสินใจอยู่ว่าควรซื้อดีไหม เรามารู้วิธีการใช้เครื่องปรับอากาศที่ถูกต้อง ให้คลายกังวลเรื่องค่าไฟพุ่งกันดีกว่า
9 วิธีใช้เครื่องปรับอากาศให้ประหยัดไฟ
1. มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นระดับความประหยัดไฟฟ้าสูงที่สุด ออกโดยกระทรวงพลังงาน เครื่องปรับอากาศที่มีเครื่องหมายกำกับจึงได้รับการพิจารณาเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อเลือกซื้อแอร์ติดตั้งภายในบ้าน
เครื่องปรับอากาศ TCL ขนาด 9,284 BTU ระบบ Inverter พร้อมฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 พร้อมติดตั้ง! คลิก: Lazada
2. ติดตั้งเครื่องปรับอากาศในตำแหน่งที่เหมาะสม
ต้องติดตั้งบริเวณที่สามารถกระจายลมได้ทั่วถึงทั้งห้อง ไม่มีสิ่งกีดขวาง และไม่ควรติดตั้งในมุมอับ ที่สำคัญอย่าติดตั้งชิดผนังที่รับแดดจัด หรือทิศตะวันตก เพราะจะทำให้เครอื่งปรับอากาศทำงานหนัก
เครื่องปรับอากาศ SAIJO DENKI SMART COOL R32 ขนาด 12,770 BTU ฟอกอากาศและกรองฝุ่นได้ คลิก: Lazada
3. เลือกขนาดเครื่องให้เหมาะสมกับขนาดห้อง
เลือกเครื่องปรับอากาศจาก BTU (British Thermal Unit) หมายถึง หน่วยวัดปริมาณความร้อน ใช้หน่วยวัดพลังเป็น BTU/hr. (บีทียูต่อชั่วโมง) เช่น 9000BTU 12000BTU ตัวเลขเหล่านี้คือขนาดของเครื่องปรับอากาศ ซึ่งต้องมีการคำนวณจากความกว้างของห้อง เพื่อไม่ให้เครื่องปรับอากาศใหญ่หรือเล็กจนเกินไป สามารถคำนวณได้ด้วยสูตร
- พื้นที่ห้อง x ค่า Cooling Load Estimation = ค่า BTU ที่เหมาะสม โดย
- ห้องนอน: ค่า Cooling Load เท่ากับ 700-750 BTU/ตารางเมตร
- ห้องนั่งเล่น: ค่า Cooling Load เท่ากับ 750-850 BTU/ตารางเมตร
- ห้องทำงาน: ค่า Cooling Load เท่ากับ 800-900 BTU/ตารางเมตร
- ห้องประชุม: ค่า Cooling Load เท่ากับ 850-1,000 BTU/ตารางเมตร
*ตัวอย่างวิธีการคำนวณ เช่น ห้องทำงาน กว้าง 5 เมตร ยาว 6.5 เมตร
(5 x 6.5) x 800 = 26,000 BTU
เครื่องปรับอากาศ CARRIER ระบบ Inverter เลือกได้หลายขนาด ตั้งแต่ 9,200-25,200 BTU สั่งงานผ่าน Wi-Fi ทำความสะอาดด้วยตัวเองได้ และประหยัดไฟแบบสุด ๆ คลิก: Lazada
4. ตั้งอุณหภูมิให้พอเหมาะ
โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะตั้งอุณหูภูมิที่กำลังเย็นสบาย อยู่ที่ 25-26 องศาเซลเซียส แต่รู้หรือไม่ เราควรตั้งอุณหภูมิไว้ไม่ต่ำกว่า 28 องศา เพราะในช่วงเวลาที่เราหลับร่างกายจะไม่สามารถปรับอุณหภูมิตามสภาพอากาศได้ นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทาง
เครื่องปรับอากาศ LG ระบบ Dual Inverter ขนาด 11,942 BTU ติดตั้งฟรี คลิก: Lazadaคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
5. นำเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้ในห้องอื่น
นำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องออกไป เช่น ตู้เย็น หม้อหุงข้าว เครื่องทำน้ำร้อน เพราะเครื่องใช้เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อุณหภูมิห้องสูงขึ้น
เครื่องปรับอากาศ Samsung ขนาด 17,200 BTU ระบบ S-Inverter Eco ลดการใช้พลังงานลงถึง 73% คลิก: Lazada
6. งดกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดความร้อน
การสูบบุหรี่ภายในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ เพราะการเกิดควันในห้อง จะต้องใช้พัดลมในการช่วยเป่าลมออกไป เพื่อถ่ายอากาศส่วนหนึ่งออกจากห้องและปล่อยให้อากาศภายนอกเข้ามาทดแทน ซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น
เครื่องปรับอากาศ Hisense ระบบ Inverter ขนาด 12,000 BTU มาพร้อมระบบ I Feel sensor เพื่อตรวจรับอุณหภูมิโดยรอบ และปรับอากาศอัตโนมัติ คลิก: Lazada
7. ใส่เสื้อผ้าที่ช่วยทำให้สบายตัวมากขึ้น
คือการแก้ปัญหาง่าย ๆ ที่ตัวเราเอง เพราะหากเราใส่เสื้อผ้าบางเบา สบาย ๆ จะทำให้เราไม่ร้อน และไม่จำเป็นต้องปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้เย็นจนเกินจำเป็น
เครื่องปรับอากาศ SHARP ระบบ Inverter ขนาด 9,000 BTU ติดตั้งฟรี! คลิก: Lazada
8. ผ้าม่านเป็นตัวช่วยที่ดี
การติดม่านในห้อง ไม่ใช่แค่ความสวยงาม หรือความเป็นส่วนตัวเท่านั้น แต่ผ้าม่านยังทำหน้าที่กันความร้อนไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ภายในบ้าน ซึ่งปัจจุบันผ้าม่านมีนวัตกรรมมากมาย ทั้งเก็บความเย็นภายในบ้าน ป้องกันแสงยูวี และอายุการใช้งานที่คงทน คุณสมบัติทั้งหมดนี้ ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานไม่หนักเช่นกัน
เครื่องปรับอากาศ Daikin ระบบ Inverter ขนาด 9,200-20,500 BTU คลิก: Lazada
9. สภาพแวดล้อมรอบบ้าน
สรุปง่าย ๆ ว่าความร้อนทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก เพราะฉะนั้นหากรอบบ้านของเราอากาศไม่ร้อน ก็ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้ง่ายขึ้น การปลูกต้นไม้ต่าง ๆ ถือเป็นวิธีการช่วยประหยัดไฟทางอ้อม ที่หลายคนมองข้ามไป
เครื่องปรับอากาศ Haier แบบ Fixed Speed ขนาด 12,000 BTU คลิก: Lazada
**เก็บโค้ดส่วนลด ก่อนซื้อเครื่องปรับอากาศ ประหยัดตั้งแต่ขั้นกดซื้อ! คลิก: Lazada
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศ รู้ไว้ ไม่ง้อช่าง
-
ซื้อเครื่องปรับอากาศเครื่องนี้ จะเสียค่าไฟเท่าไร
คำนวณจากเครื่องปรับอากาศทั่วไป ไม่ใช่ Inverter เครื่องปรับอากาศขนาดต่าง ๆ หากมีการเปิดใช้งานทุกวัน วันละ 8 ชั่วโมง จะเสียค่าไฟโดนประมาณอย่างไรบ้าง
- แอร์ขนาด 9,000 BTU ค่าไฟจะประมาณเดือนละ 700 บาท
- แอร์ขนาด 12,000 BTU ค่าไฟจะประมาณเดือนละ 900 บาท
- แอร์ขนาด15,000 BTU ค่าไฟจะประมาณเดือนละ 1,100 บาท
- แอร์ขนาด 18,000 BTU ค่าไฟจะประมาณเดือนละ 1,300 บาท
- แอร์ขนาด 20,000 BTU ค่าไฟจะประมาณเดือนละ 1,500 บาท
- แอร์ขนาด 25,000 BTU ค่าไฟจะประมาณเดือนละ 1,800 บาท
-
ตำแหน่งการติดเครื่องปรับอากาศ
- ห้ามติดแอร์ไว้กลางห้องเด็ดขาด เพราะจะทำให้ลมไปไม่ทั่วทั้งห้อง
- ไม่ควรติดแอร์ไว้เหนือประตู เพราะการเปิด-ปิดห้องจะทำให้ความเย็นออกไปด้านนอก
- ไม่ควรติดแอร์ไว้บนหัวเตียง เพราะจะทำให้เย็นเกินไปและนอนไม่สบายตัว
- ไม่ควรติดแอร์ให้ชิดฝ้าหรือเพดานห้องมากเกินไป
-
โหมดต่าง ๆ ของเครื่องปรับอากาศ
หลายคนใช้เครื่องปรับอากาศอยู่ไม่กี่ปุ่ม นั่นคือปุ่มเปิด-ปิด และปุ่มปรับอุณหภูมิ แต่จะเห็นว่ารีโมตเครื่องปรับอากาศมีหลายปุ่มให้เรากดใช้ มาทำความเข้าใจกับโหมดต่าง ๆ ที่จำเป็นกันก่อนดีกว่า
- Cooling Mode: โหมดทำความเย็น เราสามารถตั้งค่าได้ทั้งอุณภูมิและความเร็วของพัดลม และห้องมีอุณหภูมิถึงจุดที่เราตั้งไว้แล้ว เครื่องปรับอากาศก็จะหยุดทำงานไปครู่หนึ่ง (หรือที่เรียกกันว่าแอร์ตัด)
- Dry Mode: ทำงานคล้าย ๆ Cooling Mode เพียงแต่เพิ่มการลดความชื้นเข้ามา
- Fan Mode: เป็นโหมดพัดลม ไม่ได้ช่วยให้ห้องเราเย็นฉ่ำ แต่จะช่วยให้อากาศในห้องถ่ายเทได้ดีขึ้น ช่วยลดความชื้นสะสมและลดกลิ่นอับได้อีกด้วย
- Auto Mode: เป็นโหมดที่สลับการทำงานไปเรื่อย ๆ ระหว่างโหมดทำความเย็น (Cooling Mode) และโหมดลดความชื้น (Dry Mode) โดยอัตโนมัติตามสภาพอากาศ แต่โดยปกติเราจะไม่ค่อยเปิดโหมดนี้เพราะว่าห้องจะไม่ค่อยเย็นนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูล: Cool Air Home, Mango Zero, Office Mate
ย้อนความสัมพันธ์ 32 ปี “สมเด็จฮุน เซน – ทักษิณ” แนบแน่นแค่ไหน?
ผลบอลพรีเมียร์ลีก แมนฯซิตี้ ชนะ เบรนท์ฟอร์ด ฮาลันด์ ซัดประตูโทน
ธปท.เพิ่ม “วันหยุดธนาคาร” รับลูก ครม. สงกรานต์นี้หยุดยาว 12-16 เม.ย.67